สกูตเตอร์ไฟฟ้า (Electric Scooter) เป็นยานพาหนะที่ใช้งานง่าย ยิ่งรุ่นมีเบาะนั่งและรุ่นที่ออกแบบเหมือนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ก็ยิ่งขับและทรงตัวง่ายหากเทียบกับรุ่นยืน อย่างไรก็ตาม ของใช้ทุกอย่างจำเป็นต้องเริ่มจากการเรียนรู้ และฝึกฝนแบบค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะคุ้นเคย จึงจะใช้งานได้สะดวกคล่องตัว
สำหรับมือใหม่ที่สนใจฝึกขับสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบยืน ควรเริ่มจากการอ่านคู่มือหรือรับคำแนะนำจากครูฝึก เพื่อทำความเข้าใจกลไกต่าง ๆ ซึ่งแต่ละยี่ห้อและรุ่นมีระบบใช้งานเฉพาะตัว โดยระบบและกลไกระดับพื้นฐานที่ควรรู้ มีดังนี้
ระบบเปิด-ปิดเครื่อง
สกูตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้ปุ่มในการเปิดและปิดเครื่อง แต่มีบางรุ่น เช่น Inmotion L8F เปิดด้วยการเข็นหรือใช้ขาไถไปข้างหน้าพักหนึ่งเครื่องจึงจะทำงาน ส่วนการปิด จะใช้วิธีกดสวิตช์เบรกกับคันเร่งค้างไว้พร้อมกันจนกว่าเครื่องจะดับ ส่วน Xiaomi Mijai หลังกดสวิตซ์เปิดเครื่องแล้ว ต้องไถออกไประยะหนึ่ง เครื่องจึงจะทำงาน
คันเร่ง-เบรก
ส่วนใหญ่จะออกแบบแฮนด์ด้านขวาเป็นคันเร่ง แฮนด์ด้านซ้ายเป็นเบรก แต่มีบางรุ่น เช่น Zero 9 ที่ออกแบบเบรกและคันเร่งไว้ด้านขวา ทำให้มือใหม่มีปัญหาในการเบรกและใช้คันเร่งพอสมควร ส่วนรุ่นไฮเทคหน่อย เช่น Ninebot ES2 มีระบบครุยส์คอนโทรล (Cruise Control) สำหรับล็อกความเร็วคงที่ ช่วยให้ขับสะดวกสบายขึ้น เพราะไม่ต้องใช้คันเร่ง
ระบบอื่น ๆ
กลไกและระบบอื่น ๆ ที่ควรรู้ ประกอบด้วย
- จอแสดงผล สกูตเตอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ใช้จอระบบดิจิตอล แสดงข้อมูลสำคัญหลายอย่าง เช่น ปริมาณไฟฟ้าที่เหลือในแบตเตอรี่ เป็นต้น
- ระบบเกียร์ หลายรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติ และบางรุ่นใช้เกียร์ธรรมดา 3 สปีด
- ระบบไฟ สกูตเตอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ใช้ไฟ LED ทั้งไฟหน้า ไฟพื้นแท่นยืน และไฟข้างล้อหลัง
- แอปพลิเคชัน สกูตเตอร์หลายรุ่นมีแอปพลิเคชันเชื่อมต่อการใช้งานกับสมาร์ทโฟน